5 ทริค ขับรถปลอดภัย ในวันฝนตก

        อากาศเริ่มเปลี่ยนฝนก็ตกแดดก็ออกอากาศก็ร้อน สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน วางทริปไปท่องเที่ยวเนื่องจากฝนตกบ่อยต้องระมัดระวังกันด้วยนะ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปลอดภัยไว้ก่อน หากใครเป็นมือใหม่เรื่องขับขี่ ทางเรามีทริคแนะนำการขับยังไงให้ปลอดภัยห่างไกลอุบัติเหตุ

1.เช็คลมยางก่อนเดินทาง

       สำหรับมือใหม่ในการขับรถ ลมยาง นั้นเป็นสิ่งที่มักจะเผลอเรอมองข้ามการให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ แต่รู้ไหม ลมยางอ่อน หรือ ลมยางแข็ง หากขับขี่จนคล่องแล้วลมยางนั้นส่งผลต่อการขับขี่เป็นอย่างมากจนรู้สึกได้ ซึ่งรถแต่ละชนิดมีขนาดแตกต่างกัน ควรจะศึกษาดูว่ารถชนิดไหนนั้นเติมลมยางเท่าไร เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

2.เช็คใบพัดปัดน้ำฝน

        ที่ปัดน้ำฝนนั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีมากับตัวรถยนต์ที่จำเป็นอย่างมากหากพบเจอฝนตกหรือมรสุม แต่รู้ไหมที่ปัดน้ำฝนก็มีอายุการใช้งานเหมือนกันนะ ประเทศไทยอย่างที่รู้กันเป็นเมืองร้อน วัสดุสำคัญของใบพัดน้ำฝนที่ทำหน้าที่ปัดหน้าให้กระจกหน้ารถของเรานั้นใสทำมาจาก ยาง ซึ่งเมื่อยางนั้นตากแดดหรือโดนความร้อนมากๆจะเกิดการเสื่อมสภาพ มีเสียงดังขึ้นมาไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราควรจะเช็คและเปลี่ยนใบพัดปัดน้ำฝนในช่วงต้นฤดูฝนหรือก่อนที่จะเข้าฤดูฝน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3.เช็คไฟของรถ

       ไฟหน้ารถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการขับรถในฤดูฝน การเปิดไฟในขณะที่ฝนตกหนักนั้นสามารถช่วยมองให้เห็นภาพข้างหน้าชัดเจนมากขึ้นนะ แต่อย่าเปิดไฟสูง ไฟเลี้ยวไฟเบรคก็เช่นกันควรจะคอยเช็คว่าสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ เนื่องจากหากฝนตกหนักไฟเหล่านี้เราสามารถใช้เป็นสัญญาณในการขับขี่หรือส่งสัญญาณต่าง ๆ ได้เพราะฉะนั้นการเช็คอุปกรณ์ไฟ สำหรับการขับขี่นั้นเป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากตนเองและผู้อื่น

4.ตรวจเช็คของเหลวในห้องเครื่อง

         ตรวจดูอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องเครื่องยนต์ ว่ามีอะไรที่ต้องเติมก่อนรึเปล่าเช่น น้ำมันเบรค น้ำสำหรับแบตเตอรี่ น้ำมันเครื่องยนต์ เพื่อให้พร้อมก่อนออกเดินทางเนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญกับการทำงานของเครื่องยนต์ ควรหมั่นเช็คอย่างสม่ำเสมอ

5.เช็คน้ำมันหรือไฟฟ้า วางแผนในการเดินทาง

         ลองดูว่าเชื้อเพลิงหรือพลังงานไฟฟ้าที่รถที่เราขับนั้นพร้อมสำหรับเดินทางไหม เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางหรือวางแผนก่อนเดินทางดีกว่า ว่าจะแวะพักที่จุดบริเวณไหนเติมพลังงานให้กับรถตรงไหนดี เพื่อลดความเสี่ยงและผิดพลาด และคนขับยังได้พักเหนื่อยจากการเดินทางด้วยนะ

error: Content is protected !!